สำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจนั้นจะต้องได้รับการรักษาโรคหัวใจด้วยยาปฏิชีวนะอยู่ตลอด
โดยยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคหัวใจมีอยู่มากมายหลายกลุ่มและแต่ละกลุ่มก็มีอยู่หลายชนิด
และฤทธิ์ของยาแต่ละชนิดก็อาจใช้รักษาโรคหัวใจได้หลายแบบ
เช่นใช้รักษาได้ทั้งโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและหัวใจวาย
บางชนิดใช้รักษาได้ทั้งหัวใจเต้นผิดจังหวะและความดันโลหิตสูง ฯลฯ การจะใช้ยากลุ่มใดแพทย์จะพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาของผู้ป่วยแต่ละรายไป
ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะยาที่ถูกใช้บ่อยๆ
รักษาโรคหัวใจยาต้านเกร็ดเลือด (antiplatelet
drugs) ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการทำงานของเกร็ดเลือดไม่ให้จับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน
ช่วยลดการเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือด ตัวอย่างของยากลุ่มนี้คือ
แอสไพรินซึ่งผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะบางชนิดจำเป็นต้องกินต่อเนื่องไปตลอดชีวิต
ส่วนยา ticlopidine หรือ clopidogrel จะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถกินยาแอสไพรินได้เนื่องจากมีปัญหาโรคกระเพาะหรือเลือดออกในทางเดินอาหาร
รวมทั้งอาจใช้ร่วมกับยาแอสไพรินในบางกรณี
ปัญหาที่อาจพบจากยากลุ่มนี้คือการที่เลือดหยุดยากกว่าปกติเวลาได้รับอุบัติเหตุหรือมีบาดแผล
รักษาโรคหัวใจยาต้านการแข็งตัวของเลือด (anticoagulants)
ยาในกลุ่มนี้คือ warfarin หรือ coumadin ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการจับตัวเป็นก้อนของเลือด
มักใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจตาย
หรือลิ้นหัวใจตีบบางชนิด
ช่วยลดโอกาสเกิดลิ่มเลือดในหัวใจหลุดไปอุดตันเส้นเลือดสมองซึ่งจะทำให้เกิดอัมพฤกษ์
อัมพาต ผู้ที่กินยากลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับการแข็งตัวของเลือดเป็นระยะเพื่อปรับขนาดยาให้เหมาะสม
ถ้าระดับยาสูงเกินไปอาจทำให้เกิดเลือดออกในอวัยวะต่างๆได้
ยาในกลุ่มนี้มีปฏิกิริยากับยาหลายชนิดมากรวมทั้งอาหารและสารเสริมอาหารต่างๆ
ซึ่งเป็นได้ทั้งทำให้ระดับยาในเลือดลดลงหรือเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่เป็นผลดีทั้งคู่
จึงควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบทุกครั้งว่าท่านกินยาในกลุ่มนี้อยู่
ไม่ควรซื้อยากินเองเด็ดขาดเพราะอาจจะเป็นอันตรายได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น